งานมอเตอร์เอ็กโปร 2017 จบไปแล้ว แต่กระแสของมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ New Honda CBR500R และ New Kawasaki Ninja 400 ทั้ง 2 ค่ายนี้ที่เพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร 2017 ที่ผ่านมานั้นยังไม่จบนะครับ เพราะมีผู้อ่านหลายๆ ท่าน ได้ลองไปสัมผัสมาและมาเล่าให้ทีมงานสองล้อฟังว่าสวย และสเปคก็น่าสนใจทั้ง 2 ค่ายเลย รวมไปถึงบ้างท่านก็มาให้ทีมงานช่วยเลือกว่าจะเอาค่ายไหนดี ทีมงานต้องขอบอกก่อนเลยว่ามอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ ทั้ง 2 ค่ายนี้ทีมงานก็เลือกไม่ถูกจริงๆ ฮ่าฮ่า วันนี้แอดมินเลยจะนำสรุปสเปคของทั้ง 2 ค่าย มาเปรียบเทียบให้ผู้อ่านได้ชมกัน เพื่อให้ผู้อ่านหลายๆ ท่าน ได้เลือกตัดสินใจกันง่ายขึ้นนั่นเอง
รูปแบบการดีไซน์
เรามาเริ่มกันที่รูปแบบการดีไซน์ทั้ง 2 รุ่นกันก่อนเลย ซึ่งความแตกต่างในส่วนนี้คงต้องบอกเลยว่า Kawasaki Ninja 400 อาจจะกินขาดเลยก็ว่าได้ เพราะรูปแบบของสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งนั้นถือว่าใหม่หมด ถ้าเทียบกับ Honda CBR500R ที่มีแค่การเปลี่ยนลวดลายชุดสีใหม่เท่านั้น แต่ก็ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของค่ายนี้ไปแล้ว โดยในส่วนนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะชอบสไตล์แบบไหนน่ะครับ
ขนาด น้ำหนัก และความสูงเบาะนั่งของตัวรถ
ในส่วนนี้ความแตกต่างก็เห็นได้ชัดครับ ซึ่งมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ Honda CBR500R จะมีความยาว 2,082 มม., ความกว้าง 739 มม., ความสูง 1,144 มม. และน้ำหนัก 198 กก. ส่วน Kawasaki Ninja 400 จะมีความยาว 1,990 มม., ความกว้าง 710 มม., ความสูง 1,120 มม. และน้ำหนัก 168 กก.
ตรงส่วนนี้ Honda CBR500R น้ำหนักอาจจะมากกว่า แต่ความยาว, ความกว้าง และความสูง ก็มากกว่า Kawasaki Ninja 400 เช่นกัน ส่วนความสูงของเบาะนั่งถึอว่า Honda CBR500R กินขาด เพราะว่ามีความสูงเบาะนั่งอยู่ที่ 812 มม. ส่วน Kawasaki Ninja 400 มีความสูงเบาะนั่งอยู่ที่ 785 มม. แต่ถ้าใครเป็นคนที่รูปร่างไม่ค่อยสูง Honda CBR500R ก็ถือว่ายังไม่ตอบโจทย์นั่นเอง
เครื่องยนต์ และสมรรถนะตัวรถ
สำหรับเครื่องเครื่องยนต์ของทั้ง 2 ค่าย จะมีความแตกต่างที่มากพอสมควร ถึงแม้ว่ารูปแบบเครื่องยนต์ของทั้ง 2 ค่าย จะเหมือนกันโดยเครื่องยนต์แบบ 2 ลูกสูบ 4 จังหวะ 8 วาล์วแบบ DOHC และระบายความร้อนด้วยน้ำ รวมไปถึงระบบเกียร์ 6 สปีด แต่ด้านซีซี นั้นต่างกันถึง 80 ซีซี เลยล่ะครับ
ซึ่ง Kawasaki Ninja 400 มีขนาดเครื่องยนต์ที่ 399 ซีซี อัตราการเร่งช่วงต้นจะเบา แต่จะไปแรงช่วงปลาย ส่วน Honda CBR500R กับมีขนาดที่มากกว่าถึง 471 ซีซี อัตราการเร่งช่วงต้นแรง แต่จะไปเบาช่วงปลาย และที่สำคัญถึงแม้ว่าน้ำหนักของ Honda CBR500R จะมากกว่าก็จริงแต่โดยรวมก็ถือว่าให้ซีซีมาเยอะพอสมควรครับ
ระบบกันสะเทือน
ตรงส่วนนี้ระบบกันสะเทือนหน้าของทั้ง 2 ค่าย จะใช้เทเลสโตปิก 41 มม. เหมือนกัน แต่ระบบกันสะเทือนหลังนั้นไม่เหมือนกันนะครับ โดยมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ Honda CBR500R จะใช้รูปแบบของ Pro-link ปรับ Preload ได้ 9 ระดับ ส่วนมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ Kawasaki Ninja 400 จะใช้รูปแบบของ Bottom-link Uni-Trak ปรับระดับได้ 5 ระดับ ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่า Honda CBR500R เหนือกว่านั่นเอง
ระบบห้ามล้อ
ระบบห้ามล้อหน้า ของ Honda CBR500R เป็นแบบ Single Wavy Disc ขนาด 320 มม. และระบบห้ามล้อหนลังเป็นแบบ Single Wavy Disc ขนาด 240 มม. ส่วนระบบห้ามล้อหน้า ของ Kawasaki Ninja 400 เป็นแบบ Single semi-floating ขนาด 310 มม. และระบบห้ามล้อหนลังเป็นแบบ Single ขนาด 220 มม. ถือว่าทั้ง 2 ค่าย มีความสูสีพอๆ กันครับ
ขนาดยาง
ซึ่งขนาดยางของทั้ง 2 ค่าย ก็ยังสูสีเช่นกัน โดย Honda CBR500R จะมียางหน้าที่ 120/70 R17 และยางหลังที่ 160/60 R17 ส่วน Kawasaki Ninja 400 จะมียางหน้าที่ 110/70 R17 และยางหลังที่ 150/60 R17
ไฟหน้า ไฟท้าย และหน้าจอแสดงผล
ไฟหน้า และไฟท้ายทั้ง 2 ค่าย เป็นหลอดไฟ LED เหมือนกัน แต่ที่แตกต่างกันจะอยู่ที่หน้าจอแสดงผล โดย Honda CBR500R จะเป็นรูปแบบของ Full Digital LCD ส่วน Kawasaki Ninja 400 จะเป็นแบบกึ่ง Digital LCD ตรงส่วนนี้ถือว่า Honda CBR500R จัดมาเต็มจริงๆ ครับ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นอายความคลาสสิคหน่อยๆ Kawasaki Ninja 400 ก็ถือว่าตอบโจทย์ครับ
ก้านเบรคมือ
ตรงส่วนนี้ก็จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดตรงที่ ก้านเบรคมือ Honda CBR500R จะสามารถปรับระดับได้ ส่วน Kawasaki Ninja 400 นั้นปรับไม่ได้ครับ
ความคุ้มค่ากับราคา
สุดท้ายเรื่องราคาก็จะเห็นความแต่ต่างอย่างชัดเจนตรงที่ Kawasaki Ninja 400 จะมี 2 ราคา โดยรุ่นปกติราคาอยู่ที่ 196,000 บาท และรุ่นพิเศษ KRT Edition ราคา 205,000 บาท ส่วน Honda CBR500R จะราคาเดียวอยู่ที่ 215,000 บาท ซึ่งแตกต่างกันแค่ 10,000 บาท หรือพูดง่ายๆ ว่า ถ้าเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยก็จะได้ซีซีที่มากกว่านั่นเอง แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ผู้ใช้งานจริงครับ ว่าตรงส่วนไหนที่เราชอบ และรุ่นไหนค่ายไหนตอบโจทย์สำหรับเราจริงๆ
คะแนนโดยรวมของ New Honda CBR500R และ New Kawasaki Ninja 400
ระดับความน่าสนใจ
[gdlr_skill_bar percent=”95″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]การออกแบบดีไซน์ 95 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”93″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ความแข็งแรง และทนทาน 93 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”93″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ประสิทธิภาพเครื่องยนตร์ 93 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”95″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ความปลอดภัย 95 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”96″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ความคุ้มค่า 96 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”94″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]คะแนนรวมเฉลี่ย 94.4 %[/gdlr_skill_bar]
Spec New Honda CBR500R
ระดับความน่าสนใจ
[gdlr_skill_bar percent=”95″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]การออกแบบดีไซน์ 95 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”92″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ความแข็งแรง และทนทาน 93 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”92″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ประสิทธิภาพเครื่องยนตร์ 92 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”95″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ความปลอดภัย 95 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”94″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]ความคุ้มค่า 94 %[/gdlr_skill_bar]
[gdlr_skill_bar percent=”93″ size=”medium” text_color=”#ffffff” background_color=”#e9e9e9″ progress_color=”#750000″]คะแนนรวมเฉลี่ย 93.8 %[/gdlr_skill_bar]
Spec New Kawasaki Ninja 400
เป็นไงกันบ้างครับสำหรับสเปคของทั้ง 2 ค่าย เห็นแล้วทีมงานก็คงบอกได้อย่างเดียวเลยว่าเลือกไม่ถูกจริงๆ ครับ แต่ก็อย่างที่บอกไว้น่ะครับ ว่าทั้งหมดแล้วรุ่นไหนค่ายไหนตอบโจทย์สำหรับเราจริงๆ เพราะความถนัด และความชอบมันแตกต่างกัน สำหรับผู้อ่านท่านได้ที่ได้ลองสัมผัส หรือเลือกซื้อมาใช้แล้ว มีข้อมูลที่อยากจะบอกทีมงานสองล้อดอทคอม ก็สามารถนำมาแชร์ได้ทั้งใน บทความด้านล่างนี้ หรือ Facebook Fanpage Songlor ได้นะครับ