น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ เลือกแบบไหนให้ เหมาะกับสองล้อคู่ใจของเรา

   น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ ที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คล้ายกับ น้ำมันเครื่องรถยนต์ ได้แก่ น้ำมันเครื่องธรรมดา, น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ และน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติและอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน

  รถมอเตอร์ไซค์ เป็นยานพาหนะที่มีจำนวนการใช้งานมากที่สุด เพราะเป็นรถที่สามารถใช้งานได้ง่ายในระยะใกล้ๆ, คล่องตัวมากกว่าเมื่อใช้งานในเมือง, ทนทาน และดูแลรักษาง่าย แต่ก็ต้องดูแลให้ดีไม่ต่างกับรถยนต์ทั่วไปเหมือนกัน

• น้ำมันเครื่องธรรมดา ผลิตจากน้ำมันแร่ เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ใช้งานทั่วไป ขี่ไปตลาด ขี่ไปซื้อของในละแวกใกล้บ้าน และไม่ใช้ความเร็วสูง จะมีค่าเฉลี่ยระยะทางในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 2,000-3,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 3-6 เดือน

• น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันแร่ และน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานหนัก และรถใช้งานทั่วไป แต่จะมีราคาสูงกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดาขึ้นมาอีกเล็กน้อย มีค่าเฉลี่ยระยะทางในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 2,000-4,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 6-9 เดือน

• น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานสังเคราะห์ เหมาะสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานหนัก ขี่ทางไกลต่อเนื่องเป็นประจำ และต้องการความเสถียรของเครื่องยนต์ มีราคาสูงกว่าน้ำมันเครื่อง 2 ชนิดแรก ค่าเฉลี่ยระยะทางในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ 4,000-6,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ปี

การเลือกซื้อ น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ ดูอะไรบ้าง 

1. รู้จักประเภทของเครื่องยนต์

รถมอเตอร์ไซค์ ปัจจุบันมีหลายแบบ หลายประเภท ดังนั้นน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์จึงจำเป็นต้องมีหลายประเภท เพื่อให้มันเหมาะสมกับเครื่องยนต์ เป็นการช่วยส่งเสริมการทำงานให้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งมี 3 ประเภท หลัก ๆ คือ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (2T),เครื่องยนต์4จังหวะ(4-T) และเครื่องยนต์ออโตเมติก (4-AT) ซึ่งทั้งหมด จะใช้น้ำมันเครื่องไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่มันจะไม่สามารถนำมาเติมทดแทนกันได้ แต่ก็มีน้ำมันบางรุ่นที่ระบุว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ซึ่งเราไม่แนะนำครับ หากคุณไม่แน่ใจว่ารถของคุณ ใช้แบบไหน ทางที่ดีที่สุดคุณสามารถดูได้จากคู่มือรถครับ

2. เลือกประเภทน้ำมันเครื่อง

ซึ่ง น้ำมันเครื่อง แต่ละประเภทก็จะมีคุณภาพที่แตกต่างกันตามหัวข้อ ประเภทของน้ำมันเครื่องมีอะไรบ้าง ? ที่เราได้อธิบายไปในข้างต้น โดยในการเลือกใช้คุณควรดูให้สัมพันกับการใช้งานของคุณเอง หากเป็นรถที่ใช้งานหนัก ๆ และคุณต้องการให้เครื่องแน่น ทำงานได้ดีขึ้น ก็ให้เลือกน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ไปเลย เนื่องจากมันมีคุณภาพสูง แต่ถ้าหากว่าเป็นรถใช้งานทั่วไป อาทิเช่น ขับไปตลาด, ขับไปซื้อของ, ขับไปรับส่งลูก หรือขับอยู่ในระแวกบ้าน และคุณก็ไม่ได้มีความรู้สึกกับเครื่องยนต์มากเป็นพิเศษ ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายในราคาสูง ๆ คุณสามารถใช้น้ำมันเครื่องแบบธรรมดา หรือน้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์ก็ได้ครับ

3. การอ่านค่าของน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ ค่าความหนืดคืออะไร

ค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ คือ ค่าตัวเลขที่ระบุอยู่บนฉลากหรือบนขวดของผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ซึ่งจะมี 2 แบบด้วยกัน เช่น SAE-30 และ 10W-30 ซึ่งแต่ละแบบจะมีความหมายดังนี้

น้ำมันเครื่องเกรดเดี่ยว (Mono-Grade Oil)

คือ น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ตัวเลขชุดเดียวเป็นตัวกำหนดค่าความหนืด เช่น SAE-30, SAE-40 หรือ SAE-50 ซึ่งสังเกตได้ง่าย ๆ ว่าตัวเลขยิ่งน้อยค่าความหนืดก็จะน้อย ตัวเลขยิ่งมากค่าความหนืดก็จะมากขึ้นนั่นเอง

น้ำมันเครื่องเกรดรวม (Multi-Grade Oil)

คือ น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ตัวเลข 2 ชุดในการกำหนดค่าความหนืด เช่น 15w40, 20w40 หรือ 10w30 ค่าตัวเลขชุดแรก เช่น 5W, 10W, 15W หรือ 20W คือ ค่าการทนความเย็นของน้ำมันเครื่อง ตัวเลขยิ่งน้อยสามารถทนต่อความเย็นได้มากนั่นเอง

ค่าตัวเลขชุดหลัง 60, 50, 40, 30, 20, 10 และ 5 คือ ค่าความหนืดของตัวน้ำมันเครื่อง ตัวเลขยิ่งมากจะมีความหนืดมาก ตัวเลขน้อยจะมีความหนืดน้อย ซึ่งค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องจะมีผลต่อการหล่อลื่นและช่วยลดการสึกหรอได้มาก

ต่อไปก็เลือกเกรดของน้ำมันเครื่อง ซึ่งก็จะมีเกรดธรรมดา, เกรดกึ่งสังเคราะห์ และเกรดสังเคราะห์แท้ 100 % ถ้าการใช้รถมอเตอร์ไซค์ของคุณ เป็นแบบทั่วไป มีการใช้งานไม่หนัก ขับขี่เพียงแค่ไปกลับจากบ้านกับที่ทำงาน ขับไปซื้อของตามห้างตามตลาด หรือขับขี่เล่น ๆ ในเมืองด้วยความเร็วไม่มาก สามารถใช้น้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์เกรดไหนก็ได้ครับ ขอแค่ปฏิบัติตามคู่มือของรถคุณก็พอ จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องเกรดสูง ๆ เลยครับ มันเป็นการเปลืองเงินซะเปล่า ๆ แต่ถ้ามีกำลังทรัพย์ น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้ 100% ก็ถือว่าดีที่สุดครับ อย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเมื่อระยะทางหรือเวลาถึงกำหนดอย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน

แน่นอนว่า การทำงานของเครื่องยนต์ก็ต้องมีน้ำมันเครื่องเข้าไปหล่อลื่น โดยน้ำมันเครื่องของรถมอเตอร์ไซค์นั้น ก็จะมีแบ่งเป็น 3 เกรดเหมือนกัน แต่ระยะทางในการเปลี่ยนถ่ายนั้นจะเร็วกว่าของรถยนต์ทั่วไป เพราะเครื่องยนต์มีจำนวนการใช้งานรอบที่มากกว่า การสะสมของอุณหภูมิในน้ำมันเครื่องจึงสูงกว่า แต่อ่างน้ำมันเครื่องมีขนาดเล็กนิดเดียว จึงทำให้ต้องเปลี่ยนเร็วกว่า ตามรอบดังนี้ครับ

เพียงเราเลือก น้ำมันเครื่อง ที่เหมาะสมกับชนิดเครื่องยนต์ และเปลี่ยนถ่ายตาม รอบ ที่เหมาะสม เท่านี้ สองล้อคู่ใจของคุณ ก็จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และทำให้มีความสุขในการขับขี่มากขึ้น แล้วครับ